กรุงเทพโพลล์ร่วมกับคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ในปีงูใหญ่”โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,120 คน พบว่า
การสำรวจความเห็นเกี่ยวกับจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ (เจ้าของธุรกิจ) ประจำไตรมาส 4/2566 โดยได้ทำการเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ช่วงเดือน ก.ย. 2566) ในประเด็นต่างๆ พบว่า ประชาชนเห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคตมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 49.6 (โดยลดลงร้อยละ 3.6) รองลงมาคือ ตนเองมีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในการที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่ คิดเป็นร้อยละ 45.5 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3) และรู้จักผู้ประกอบการหรือมีเครือข่ายที่สามารถสนับสนุนในการริเริ่มธุรกิจคิดเป็นร้อยละ 41.3 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9) ขณะที่เห็นว่าไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว คิดเป็นร้อยละ 64.6 (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.1)
ทั้งนี้สาเหตุที่ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองมากที่สุดคือ ปัญหาข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูง คิดเป็นร้อยละ 45.3 รองลงมาคือ ไม่มีเงินทุนมากพอ คิดเป็นร้อยละ 42.0 กลัวล้มเหลว กลัวขาดทุน คิดเป็นร้อยละ 39.4 น้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ ราคาสูงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 36.2 และคิดว่างานที่ทำอยู่มั่นคงแล้ว เลี้ยงตัวเองได้แล้ว คิดเป็นร้อยละ 28.2
โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- 1. ประเด็นคำถามเกี่ยวกับจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ (เจ้าของธุรกิจ)
คำถาม | สำรวจ
(ธ.ค.66) |
สำรวจ
(ก.ย.66) |
เพิ่มขึ้น/ลดลง |
ร้อยละ | ร้อยละ | ร้อยละ | |
ท่านมีความตั้งใจที่จะประกอบธุรกิจ ในอนาคตข้างหน้า | 41.1 | 41.9 | -0.8 |
ท่านเห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคต | 49.6 | 53.2 | -3.6 |
ตัวท่านมีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในการที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่ | 45.5 | 45.2 | +0.3 |
รู้จักผู้ประกอบการหรือมีเครือข่ายที่สามารถสนับสนุนในการริเริ่มธุรกิจ | 41.3 | 38.4 | +2.9 |
คิดว่าการเริ่มต้นธุรกิจใหม่เป็นสิ่งที่ง่ายในสถานการณ์ขณะนี้ | 12.7 | 16.7 | -4.0 |
ไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว | 64.6 | 63.5 | +1.1 |
- 2. สาเหตุที่ท่านไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวท่านเอง (เลือกตอบได้มากกว่า1 ข้อ)
ปัญหาเงินเฟ้อในปัจจุบัน ค่าครองชีพสูง | ร้อยละ | 45.3 |
ไม่มีเงินทุนมากพอ | ร้อยละ | 42.0 |
กลัวล้มเหลว กลัวขาดทุน | ร้อยละ | 39.4 |
น้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ ราคาสูงขึ้น | ร้อยละ | 36.2 |
คิดว่างานที่ทำอยู่มั่นคงแล้ว เลี้ยงตัวเองได้แล้ว | ร้อยละ | 28.2 |
ขาดความรู้ ความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจ | ร้อยละ | 27.0 |
คิดว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่ | ร้อยละ | 21.2 |
ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำธุรกิจอะไรดี | ร้อยละ | 21.2 |
นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ / เงินเดือนปริญญาตรี | ร้อยละ | 20.7 |
กลัวทำแล้วเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน เช่น โรคระบาด ภัยธรรมชาติ | ร้อยละ | 17.5 |
หากไม่สำเร็จกลัวคนในครอบครัวจะเดือดร้อน แบกภาระหนี้ร่วมกัน | ร้อยละ | 16.7 |
กลัวการเริ่มต้นว่าจะทำไม่ได้ | ร้อยละ | 7.9 |
อื่นๆ อาทิ มีปัญหาสุขภาพ การสนับสนุนจากภาครัฐ ไม่มั่นใจในรัฐบาล ฯลฯ | ร้อยละ | 8.5 |
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์ในการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับจิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจของคนไทยประจำไตรมาส 4 /2566 ในประเด็นต่างๆ รวมถึงเหตุผลที่ทำให้ไม่กล้าเริ่มธุรกิจเป็นของตนเอง ทั้งนี้เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
ประชากรที่สนใจศึกษา
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ± 3 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
วิธีการรวบรวมข้อมูล
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอนประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นจึงนำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 4 – 15 ธันวาคม 2566
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 6 มกราคม 2567
กรุงเทพโพลล์ โทร. 02-407-3888 ต่อ 2897,2898
E-mail: bangkokpoll@bu.ac.th Website: http://bangkokpoll.bu.ac.th
Twitter: http://twitter.com/bangkok_poll