ททท. ชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์เมืองอุบลฯ กับงาน VIJIT GASTRONOLIGHT @อุบลราชธานีศรีศิลป์ สร้างสรรค์ปรากฏการณ์แสงสีแห่งศรัทธายามค่ำคืน 7–16 กรกฎาคมนี้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน VIJIT GASTRONOLIGHT @อุบลราชธานีศรีศิลป์ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 7-16 กรกฎาคม 2568 โดยมีนายภพ ภูสมปอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นางสาวพิศทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี นายอภิรักษ์ นามบุตร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี นายณัฐ ครุฑสูตร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม ททท. และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงานฯ ปักหมุดเมืองอุบลราชธานี สร้างปรากฏการณ์แสงสีเนรมิตยามค่ำคืนของเมืองอุบลฯ ให้เปล่งประกาย ภายใต้แนวคิด “วิจิตรแสงศรัทธา เมืองธรรมรุ่งเรือง” พลิกโฉมเมืองอุบลราชธานีให้เปล่งประกายยามค่ำคืน ผ่านการจัดแสดงแสง สี และศิลปะร่วมสมัยที่ผสานความเชื่อ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตท้องถิ่นเข้าไว้ด้วยกัน ครอบคลุมพื้นที่สำคัญ 11 จุดทั่วเมือง ถ่ายทอดเส้นทางแห่งแรงศรัทธาจาก “แสงแห่งศรัทธา” สู่ “ศิลป์แห่งชีวิต” เพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างสร้างสรรค์
ททท. มุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวในปี Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 ด้วยการนำเสนอ “Amazing Experience” ผ่านเสน่ห์ไทยและกิจกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด “5 Must Do in Thailand” เพื่อสร้างแรงบันดาล เติมเต็มให้ทุกการเดินทางเปี่ยมด้วยคุณค่าและความหมายในทุกจุดหมายปลายทาง อีกทั้งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วย กระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจพร้อมสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ในโอกาสนี้ ททท. ได้สานต่อแนวคิดดังกล่าวด้วยการจัดงาน “VIJIT GASTRONOLIGHT @อุบลราชธานีศรีศิลป์” ปรากฏการณ์แสงสีที่เนรมิตยามค่ำคืนของเมืองอุบลราชธานีให้เปล่งประกาย ภายใต้แนวคิด “วิจิตรแสงศรัทธา เมืองธรรมรุ่งเรือง” ถ่ายทอดการเดินทางจาก “แสงแห่งศรัทธา” สู่ “ศิลป์แห่งชีวิต” ที่หลอมรวมความเชื่อ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตเข้าด้วยกัน ผ่านการจัดแสดงแสง สี และงานออกแบบร่วมสมัย กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 16 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.00 – 23.00 น. ครอบคลุมพื้นที่สำคัญของเมืองอุบลราชธานีจำนวน 11 จุด พร้อมกิจกรรมการออกร้านจำหน่ายอาหารพื้นถิ่นจำนวน 25 ร้าน และการแสดงดนตรีจากศิลปิน ระหว่างวันที่ 7-13 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.00-22.00 น. บริเวณศาลหลักเมืองอุบลราชธานี
งาน “VIJIT GASTRONOLIGHT @อุบลราชธานีศรีศิลป์” ททท.ได้นำเสนอประสบการณ์ภายใต้แนวคิด “5 Must Do in Thailand” โดยหลอมรวม Must Taste และ Must See ไว้ในงานเดียวกัน เพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยว ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของอาหารไทย อาหารถิ่น และวัฒนธรรมด้านอาหารที่หลากหลายของประเทศไทย เพื่อให้เกิดการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยว และชุมชนที่เป็นต้นกำเนิดวัตถุดิบ ขยายระยะเวลาการท่องเที่ยวยามค่ำคืน กระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานรากอย่างทั่วถึง นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะได้สัมผัสความงดงามของการประดับตกแต่งไฟในงาน “VIJIT GASTRONOLIGHT @อุบลราชธานีศรีศิลป์” ที่จัดแสดงใน 11 จุดสำคัญทั่วเมืองอุบลราชธานี โดยแต่ละจุดมีรูปแบบและรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
จุดที่ 1 “แสงเทียนศรีอุบล รวมใจศรัทธา” ณ อภิมหาเทียนพรรษาเฉลิมพระเกียรติ ในทุ่งศรีเมือง
จุดที่ 2 “บัวงามกลางศรีศิลป์ ศรีแผ่นดินอีสาน” ณ สนามหญ้า ในทุ่งศรีเมือง จุดที่ 3 “แสงแห่งแผ่นดิน ถิ่นตำนานอุบล” ณ อาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี จุดที่ 4 “ไทรศิลป์แสงเงา เล่าขานเมือง” ณ ต้นไทรย้อย อาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี จุดที่ 5 Hi Light : PROJECTION MAPPING การแสดง “แสงสุปัฏ – ธรรมบูชาแห่งอุบล” ณ วัดสุปัฏนารามวรวิหาร จุดที่ 6 “หอธรรม เรืองรอง ทองแห่งธรรม” ณ หอไตรปิฎก กลางน้ำ วัดทุ่งศรีเมือง จุดที่ 7 “ผดุงแสงสาร สื่อศิลป์เมือง” ณ ตึกโรงพิมพ์ผดุงสาร จุดที่ 8 “ทองศิลป์วิจิตรศรี” ณ ห้างทองสินประเสริฐ จุดที่ 9 “วนาแสงวิมุตติพุทธศิลป์” ณ วัดมหาวนาราม พระอารามหลวง จุดที่ 10 “หลวงธรรมล้ำค่า
แสงศรัทธาเหนือกาล” ณ วัดหลวงอุบลราชธานี และ จุดที่ 11 “แสงอุ่นละไม ปลายทางแห่งศิลป์” ณ ตึกเหลือง
นอกจากนี้ ภายในงานมีการแสดง แสง สี ด้วยเทคนิคใหม่ ผสมผสานกับการสร้างสีสันบรรยากาศยามค่ำคืนให้กับสถานที่สำคัญ ๆ ของจังหวัดอุบลราชธานี ด้วยนวัตกรรมแสง สี เสียง และสื่อประสมที่ทันสมัย หรือแนว Projection Mapping & Lighting เชื่อมโยงวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้ากับศิลปะร่วมสมัยอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ของพื้นที่อย่างโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ พร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์ของอุบลราชธานีในฐานะ เมืองท่องเที่ยวที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ขณะเดียวกัน กิจกรรมต่าง ๆ ภายในงานยังได้คำนึงถึงแนวคิด การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) โดยสอดแทรกแนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต