depa ร่วมกับ กรมสรรพากร ดันมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการแปลงเป็นดิจิทัล (Digital Transformation) ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยสามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่าสำหรับค่าซื้อ หรือค่าจ้างทำ หรือค่าใช้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์อัจฉริยะ หรือบริการด้านดิจิทัลที่ได้รับขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัล หวังกระตุ้นให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ดำเนินธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับ SMEs ไทย
.
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เปิดเผยว่า วานนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการแปลงเป็นดิจิทัล (Digital Transformation) ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง เสนอ โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท สามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่า เฉพาะในส่วนที่ไม่เกิน 3 แสนบาท สำหรับค่าซื้อ หรือค่าจ้างทำ หรือค่าใช้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์อัจฉริยะ หรือบริการด้านดิจิทัลที่ได้รับขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัลของ depa โดยไม่รวมเครื่องคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการ (24 มิ.ย.) ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2570
.
ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า ที่ผ่านมา depa บูรณาการการทำงานกับ กรมสรรพากร มาอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการแปลงเป็นดิจิทัลของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้รับการยกระดับจากมาตรการภาษี 200% เดิม ซึ่งครั้งนี้ผู้ประกอบการและผู้ให้บริการดิจิทัลจะต้องได้รับ dSURE ตราสัญลักษณ์ที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์ประเภทฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัย (Safety) ความสามารถในการทำงาน (Functionality) และความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity) ขณะที่โปรแกรมคอมพิวเตอร์และโปรแกรมบริการดิจิทัลจะต้องได้รับมาตรฐานสากลตามที่ depa กำหนด อาทิ ISO/IEC 29110, CMMI Development ฯลฯ ก่อนรับการขึ้นทะเบียนบน บัญชีบริการดิจิทัล แหล่งรวบรวมสินค้า/บริการดิจิทัลจากผู้ประกอบการและผู้ให้บริการดิจิทัลไทยที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดด้านมาตรฐาน คุณภาพ ราคาสมเหตุสมผล ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งาน
.
“depa หวังเป็นอย่างยิ่งว่า มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการแปลงเป็นดิจิทัลของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจะกระตุ้นให้ SMEs ไทยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งเป็นส่วนช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันยังเป็นแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยพัฒนาสินค้าและบริการดิจิทัลที่มีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศ พร้อมก้าวสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลต่อไป” ผู้อำนวยการใหญ่ depa กล่าว
.
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสามารถดูผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลที่ได้รับการขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัลได้ที่ https://techhunt.depa.or.th/