“นูทานิคซ์” ตอกย้ำภาพผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์  ผู้บุกเบิกโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานไฮเปอร์คอนเวิร์จ (HCI)

นูทานิคซ์ชูภาพผู้นำระดับโลก! ตอกย้ำซอฟต์แวร์คลาวด์ช่วยธุรกิจให้ใช้พับลิคและไพรเวทคลาวด์ได้เร็วและมีประสิทธิภาพ สถาปัตยกรรมมัลติคลาวด์ของนูทานิคซ์ช่วยองค์กรลดความซับซ้อนในการใช้คลาวด์ด้วยแพลตฟอร์ม ไฮบริด มัลติคลาวด์ระบบเปิดที่ควบคุมการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถเน้นให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ทางธุรกิจและนวัตกรรมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี ผู้จัดการประจำประเทศไทย นูทานิคซ์


ทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี
ผู้จัดการประจำประเทศไทย นูทานิคซ์ กล่าวภายในงานอัปเดทธุรกิจและเทคโนโลยีจากนูทานิคซ์ ในประเด็น “What’s Next in Cloud: Four major areas to consider after Covid-19” ว่า ซอฟต์แวร์คลาวด์ของนูทานิคซ์ช่วยธุรกิจให้ใช้พับลิคและไพรเวทคลาวด์ได้เร็วและมีประสิทธิภาพ ภายใต้ One Platform. Any App. Any Cloud: แพลตฟอร์มคลาวด์ของนูทานิคซ์ประกอบด้วย โครงสร้างพื้นฐานไฮบริดคลาวด์ และการบริหารจัดการมัลติคลาวด์ ที่มาพร้อมสตอเรจแบบรวมศูนย์ บริการด้านดาต้าเบส และบริการด้านเดสก์ท็อป เพื่อรองรับแอปพลิเคชันและเวิร์กโหลดทุกประเภทที่อยู่ในทุกสภาพแวดล้อม

กลยุทธ์สมาร์ตคลาวด์ เริ่มต้นด้วยดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทันสมัย

องค์กรต่าง ๆ สามารถสร้างมาตรฐานการดำเนินงานบน HCI ที่ทรงประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยกับนูทานิคซ์ เพื่อให้บริการแอปพลิเคชันและดาต้าทุกขนาดบนคลาวด์ทุกประเภท

 

องค์กรสามารถปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ที่อยู่ในองค์กรให้ทันสมัยด้วยแพลตฟอร์ม HCI ของนูทานิคซ์: องค์กรต่าง ๆ สามารถเสริมแกร่งให้ตนเองได้ด้วยเทคโนโลยีคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพสูง และลดความซับซ้อนให้กับวิธีการจัดซื้อ การติดตั้งใช้งาน และการบริหารจัดการบริการด้านไอทีต่าง ๆ ดังนี้

  • ลดค่าใช้จ่าย: ลดการใช้เทคโนโลยีที่ไม่จำเป็นได้จำนวนมาก และช่วยให้ทีมทางเทคนิคมีภาระงานลดลง เพื่อให้สามารถมุ่งทำงานที่สร้างมูลค่าสูงกว่า
  • ทันการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ: การนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว การปรับขนาดการทำงานได้ตามต้องการ และการเชื่อมโยงไปทำงานบนพับลิคคลาวด์ ช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ๆ ได้เร็วขึ้น
  • เพิ่มความพร้อมใช้งาน: ปกป้องบริการและข้อมูลขององค์กรจากความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์ ภัยพิบัติ และการโจมตีทางไซเบอร์

AOS Storage

  • คงประสิทธิภาพสูงต่อเนื่อง: ใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการใช้มากได้อย่างรวดเร็วด้วยประสิทธิภาพ

ที่สม่ำเสมอและคาดการณ์ได้ ตำแหน่งที่อยู่ของข้อมูลช่วยเพิ่มประโยชน์สูงสุดให้กับฮาร์ดแวร์ชั้นนำล่าสุด เช่น NVMe และ RDMA

  • การปกป้องข้อมูลที่ไม่มีความผิดพลาด: ข้อมูลได้รับการปกป้องและพร้อมใช้งานตลอดเวลา ด้วยอัลกอริธึมขั้นสูง ทำงานสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกันและเป็นแบบดิสทริบิ้วเต็ด จึงสามารถปกป้องข้อมูลจากทุกสิ่งทุกอย่างได้ตั้งแต่ปกป้องข้อมูลจากการเสื่อมประสิทธิภาพและความสมบูรณ์อย่างช้า ๆ ของข้อมูล (bit rot) จากความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์ ไปจนถึงปกป้องข้อมูลจากความล้มเหลวของไซต์ทั้งหมด
  • ความยืดหยุ่นที่เป็นเลิศ: สามารถปรับขนาดสตอเรจได้อย่างถูกต้องแม่นยำตามความต้องการขององค์กร และขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็วไม่ยุ่งยาก ช่วยให้ใช้นโยบายด้านสตอเรจได้อย่างสมเหตุสมผลตามลักษณะของเวิร์กโหลดที่ใช้ โดยไม่ต้องผูกติดกับฮาร์ดแวร์

ระบบเน็ตเวิร์กอัตโนมัติและปลอดภัย

  • Microsegmentation: ป้องกันการกระจายของมัลแวร์และลดพื้นที่การโจมตีด้วยการจำกัดการใช้

แอปพลิเคชันเท่าที่จำเป็น และทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยวิธีการที่ไม่ยุ่งยากด้วยการใช้ประโยชน์จากแมชชีน

เลิร์นนิ่ง ในการกำหนดการตั้งค่าที่เหมาะสม

  • Virtual networking: ใช้ multi-tenancy ที่มีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมขององค์กรได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย หรือขยายเน็ตเวิร์กข้ามคลาวด์หลายประเภทเพื่อการเคลื่อนย้ายเวิร์กโหลดได้อย่างราบรื่นและไม่ล้มเหลว
  • จัดการเน็ตเวิร์กแบบรวมศูนย์: บริหารจัดการการตั้งค่าเน็ตเวิร์กจากศูนย์กลาง และนำไปใช้กับสภาพแวดล้อม HCI ทั้งหมดขององค์กร ผ่านการจัดการด้วยเวอร์ชวลสวิตช์ที่ทรงประสิทธิภาพและใช้งานง่าย

 

เส้นทางสู่การใช้คลาวด์

Nutanix Cloud Infrastructure เป็นเครื่องมือที่องค์กรใช้ในการนำคลาวด์มาใช้ และทำการเชื่อมโยงไพรเวท

พับลิค และดิสทริบิ้วเต็ดคลาวด์ไว้ในโซลูชันไฮบริด มัลติคลาวด์

 

โซลูชันไฮบริด มัลติคลาวด์ที่ทรงประสิทธิภาพ: นูทานิคซ์นำเสนอการใช้งานไพรเวทและพับลิคคลาวด์

ที่ยืดหยุ่น ใช้งานง่าย และคุ้มค่า เพื่อบริหารจัดการแอปพลิเคชันที่อยู่บนคลาวด์ทุกประเภทได้ง่ายขึ้น ดังนี้

  • ทางเลือกในการใช้คลาวด์: ไม่มีเรื่องเวนเดอร์ล็อคอินอีกต่อไป และใช้โมเดลปฏิบัติการบนคลาวด์

ที่นำเสนอความสม่ำเสมอให้กับเวิร์กโหลดที่โฮสต์อยู่ภายในองค์กร ที่เอดจ์ และ บนคลาวด์สาธารณะหลายระบบ

  • ความเรียบง่าย: ระบบควบคุมการใช้งานคลาวด์หนึ่งเดียว ที่สามารถจัดการการใช้งานแอปพลิเคชันและข้อมูลที่ทำงานหรือเก็บอยู่ในทุกที่ ในขณะเดียวกันก็สามารถเคลื่อนย้ายแอปพลิเคชัน เวิร์กโหลด และข้อมูลได้อย่างราบรื่น
  • ความปลอดภัยและความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว: มีการติดตั้งความปลอดภัยระดับ zero trust พร้อมสรรพ ซึ่งไม่เพียงช่วยป้องกันและตรวจจับภัยคุกคามเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันข้อมูลสูญหาย และช่วยให้องค์กรมั่นใจว่าธุรกิจจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องด้วย

ความต่อเนื่องทางธุรกิจและการกู้คืนระบบ

  • มีอิสระในการเลือก: ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กร ด้วยการมีอิสระในการสำรองเวิร์กโหลดได้ทุกที่ เช่น เวิร์กโหลดที่อยู่ในองค์กร อยู่ที่เอดจ์ อยู่บนพับลิคคลาวด์ หรือใช้บริการด้านการกู้คืนระบบที่มีการจัดการให้อย่างครบวงจร
  • สร้างความสามารถในการฟื้นตัว: ลดดาวน์ไทม์และลดค่าโสหุ้ย ด้วยบริการเรียกคืนค่าโดยอัตโนมัติจากแพลตฟอร์มหนึ่งเดียว
  • ความยืดหยุ่นและความคล่องตัว: กู้คืนหรือขยายไปยังสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วในไม่กี่นาที ด้วยการเข้าใช้พับลิคคลาวด์ เพื่อสนับสนุนความต้องการของดาต้าเซ็นเตอร์สำรองขององค์กร

 

แอปพลิเคชันและเวิร์กโหลดที่ทำงานบนคลาวด์ได้อย่างชาญฉลาด

  • ROBO และ edge computing: ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานแบบเบ็ดเสร็จที่ปรับขนาดการทำงานได้ง่าย ในการรันแอปพลิเคชันทั้งหมดขององค์กรจากระยะไกลและจากเอดจ์บนสภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์ที่รองรับการทำงานด้านนี้
  • การทำงานจากทุกที่และประสิทธิภาพในการทำงาน: นูทานิคซ์ตอบสนองความต้องการการทำงานจาก

ทุกที่ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนให้องค์กรมีทางเลือกอย่างอิสระที่จะโฮสต์เวิร์กโหลดไว้บนโครงสร้างพื้นฐานเดสก์ท็อปเสมือน (Virtual Desktop Infrastructure: VDI) หรือบริการด้านเดสก์ท็อป (Desktop as a Service: DaaS)

แอปพลิเคชันและเวิร์กโหลดที่มีข้อมูลเป็นศูนย์กลางได้อย่างง่ายดายเพียงคลิกเดียว

 

ความทันสมัยและนวัตกรรมของแอปพลิเคชัน

  • ปรับปรุงแอปพลิเคชันให้ทันสมัยโดยปราศจากความเสี่ยง: การเคลื่อนย้ายแอปพลิเคชันระหว่าง

ไพรเวทและพับลิคคลาวด์โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใหม่หรือจัดโครงสร้างใหม่ แต่ใช้การทำงานร่วมกับปัญญาประดิษฐ์/แมชชีนเลิร์นนิ่ง (AI/ML) รวมถึงบริการคลาวด์อื่น ๆ และจัดองค์ประกอบใหม่ตามต้องการ

  • ใช้แอปพลิเคชันได้เร็วขึ้น: สร้าง ใช้ และบริหารจัดการแอปพลิเคชันที่ใช้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดจากแพลตฟอร์มเดียวกัน และให้บริการคลาวด์เนทีฟที่จำเป็นแก่นักพัฒนาตามขั้นตอนและในเวลาที่เขาต้องการ
  • การบริหารจัดการแบบรวมศูนย์: องค์กรจะมีการบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ที่สามารถบริหารจัดการ

เวิร์กโหลดทุกชนิดบนคลาวด์ทุกประเภทได้โดยปราศจากความซับซ้อนของการจัดการที่แยกส่วนกัน

 

ดาต้าเบส: ให้บริการด้านดาต้าเบส (Database-as-a-Service: DBaaS) ตามความต้องการของแต่ละองค์กร

ลดความซับซ้อนในการบริหารจัดการดาต้าเบสอย่างมีนัยสำคัญ และขับเคลื่อนให้การทำงานของเวิร์กโหลดด้านดาต้าเบสที่สำคัญมีประสิทธิภาพสูงอย่างต่อเนื่อง

 

โซลูชันด้านดาต้าเบสของนูทานิคซ์

บริษัทวิจัย IDC ได้คาดการณ์ว่าขนาดของปริมาณการใช้ข้อมูลทั่วโลก (global datasphere) จะสูงถึง

175 เซตตะไบท์ (ZB) ภายในปี 2568 อย่างไรก็ตาม ข้อมูลส่วนใหญ่นี้ไม่ได้นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์หรือไม่ได้ถูกนำไปใช้ตรงตามกำหนดเวลา หรือไม่สามารถนำไปวิเคราะห์ได้อย่างคุ้มค่า

 

จะเกิดอะไรขึ้นหากมีวิธีการง่าย ๆ ที่จะทำให้องค์กรสามารถควบคุมและใช้ประโยชน์จากการขยายตัวของดาต้าเบส โดยสามารถรวบรวมและบริหารจัดการดาต้าเบสทั้งหมดภายใต้ระบบบริหารจัดการเดียว และจะเกิดอะไรขึ้นหากสามารถทำให้ดาต้าเบสเป็นแบบเสมือนได้ และหากทำเช่นนั้นมีทางเป็นไปได้ว่าจะประหยัดค่าไลเซนส์ต่าง ๆ ด้านดาต้าเบสที่แพงมากไปพร้อม ๆ กับเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 5 เท่า

 

นูทานิคซ์นำดาต้าเบสทั้งหมดขององค์กรมาไว้ด้วยกันและดำเนินงานด้านดาต้าเบสต่าง ๆ ด้วยการคลิกเพียง

ครั้งเดียว ซึ่งสามารถติดตามตรวจสอบ เพิ่มความสามารถ และบริหารจัดการดาต้าเบสเหล่านั้นได้ง่ายและเร็วขึ้น เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้คลาวด์ นูทานิคซ์ได้เพิ่มความสามารถที่ทันสมัยให้กับโซลูชัน DBaaS ซึ่งทำให้โหลดด้านการดูแลระบบเป็นอัตโนมัติ ผลลัพธ์ที่ได้คือโซลูชันด้านดาต้าเบสที่ทำงานตามความต้องการขององค์กรมีความพร้อมใช้ตลอดเวลา ปลอดภัยตลอดเวลา และคุ้มค่าการลงทุนอย่างมาก

 

แนวทางใหม่ในการบริหารจัดการดาต้าเบส

การดึงพลังของข้อมูลออกมาเพื่อกระตุ้นการเติบโตขององค์กรจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงระบบและความคิดเดิม ๆซึ่งเป็นความท้าทายของสถานการณ์ในปัจจุบันแทนที่จะติดอยู่กับวงจรที่ไม่มีการพัฒนาของแพลตฟอร์มดาต้าเบสแบบดั้งเดิมที่แยกส่วนและซับซ้อนซึ่งต้องการการปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่และการอัปเกรดอย่างต่อเนื่อง และเป็นระบบที่ล้มเหลวในการตอบโจทย์ความต้องการต่าง ๆ ของธุรกิจ ก็ถึงเวลาที่จะต้องหาแนวทางใหม่แล้ว

 

การลดความซับซ้อนในการบริหารจัดการดาต้าเบสบนคลาวด์ทุกประเภท

Nutanix Database Service (เดิมเรียกว่า Era) ช่วยให้ทีมงานขนาดเล็กที่คล่องตัวจัดการดาต้าเบสขนาดใหญ่

ได้อย่างง่ายดาย โดยใช้คอนโซลและ API เดียว ซึ่งช่วยให้ทีมงานมีเวลามากขึ้น และใช้ทักษะกับดาต้าเบส

ที่สำคัญที่สุดได้

  • บริหารจัดการดาต้าเบสทั้งหมดขององค์กรได้อย่างง่ายดาย: รองรับการใช้ดาต้าเบสใหม่ ๆ และที่ใช้อยู่แล้วทั้งที่อยู่ในองค์กรและบนคลาวด์จาก API, CLI และคอนโซลเดียว
  • ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ: ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจเช่น ระบบความปลอดภัย ความพร้อมใช้งานสูง การกู้คืนระบบ ประสิทธิภาพ การปรับขนาด และค่าใช้จ่าย

ในขณะเดียวกันช่วยขจัดงานด้านการบริหารจัดการที่น่าเบื่อได้ด้วย

  • ลดความซับซ้อนในการบริหารจัดการผ่านระบบควบคุมเดียว: สามารถใช้ คอนโซล, API และ CLI เดียวของ Nutanix Database Service กับการใช้งานดาต้าเบสทั้งหมด (Oracle, SQL Server, PostgreSQL, MySQl, และ MongoDB)

 

ลดความซับซ้อนในการทำงานด้านดาต้าเบสตั้งแต่ที่อยู่ภายในองค์กรไปจนถึงพับลิคคลาวด์

  • ดาต้าเบสที่ทำงานโดยอัตโนมัติ: ทำงานจำเจที่ต้องใช้คนทำด้วยระบบอัตโนมัติ และประหยัดเวลาที่มีค่า

ที่ใช้ในการบริหารดาต้าเบส

  • รวมโครงสร้างพื้นฐานด้านดาต้าเบสและลดการใช้เซิร์ฟเวอร์: นำดาต้าเบสต่าง ๆ มารวมกันไว้บน Nutanix Cloud Platform ซึ่งเป็นโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานแบบรวมศูนย์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและลดความซับซ้อน
  • มอบประสบการณ์การใช้ดาต้าเบสได้ด้วยตนเองให้กับนักพัฒนา: นักพัฒนาสามารถใช้ดาต้าเบสได้ตามต้องการด้วยตนเอง เพื่อการพัฒนาซอฟต์แวร์ การทดสอบ และการสร้างสรรค์ทั้งบนระบบที่อยู่ภายในองค์กรและบนคลาวด์ โดยการใช้ API และคอนโซลหนึ่งเดียว

 

End User Computing (EUC)

โครงสร้างพื้นฐาน EUC แบบเดิมไม่ได้ขึ้นอยู่กับความท้าทายในการมอบประสบการณ์ที่ทันสมัย ที่แย่กว่านั้นคือ

การใช้งานต่าง ๆ กับระบบที่ออกแบบมาไม่ดีพอ ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ความต่อเนื่องทางธุรกิจ และการกู้คืนระบบ จนถึงปัจจุบัน โครงการ EUC นั้นซับซ้อนและช้า มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนสูง และคาดการณ์ไม่ได้ นูทานิคซ์แก้ไขความท้าทายต่าง ๆ ของการใช้งานเวอร์ชวลเดสก์ท็อปและแอปพลิเคชันแบบดั้งเดิม ไม่ว่าองค์กรจะตัดสินใจใช้เวอร์ชวลเดสก์ท็อปและแอปพลิเคชันขององค์กรบนคลาวด์หรือในดาต้าเซ็นเตอร์ นูทานิคซ์สามารถช่วยให้องค์กรใช้แอปพลิเคชันสำหรับผู้ใช้ปลายทาง (end-user applications) ได้เร็วกว่าถึง 8 เท่า

 

ประสิทธิภาพในการใช้เวอร์ชวลเดสก์ท็อปและแอปพลิเคชันบนนูทานิคซ์

  • ปรับขนาดได้: ปรับประสบการณ์ของผู้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง จากผู้ใช้หลักร้อยถึงหลักพันพร้อมการอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว
  • เชื่อถือได้: เพิ่มความเร็วในการดำเนินงาน ลดเวลาในการใช้งานลง 61% และใช้เวลาในการบริหารจัดการน้อยลง 2/3
  • ปลอดภัย: ป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์และการโจรกรรมข้อมูล ด้วยการเปิดให้เข้าถึงข้อมูลของบริษัทโดยไม่ต้องเข้าถึงเครื่องของผู้ใช้ปลายทาง

 

โซลูชันด้าน EUC ของนูทานิคซ์

  • VDI: หากใช้งานจากดาต้าเซ็นเตอร์ โดยใช้ installed broker นูทานิคซ์แนะนำให้ทำตาม VDI
  • DaaS: หากคุณกำลังใช้งานจากคลาวด์ผ่าน managed broker นูทานิคซ์แนะนำให้ใช้ DaaS

 

ทำงานจากทุกที่ด้วย Nutanix EUC

  • 10+ Years of EUC Experience
  • 1,000s of VDI Customers
  • 1,000,000s of Virtual Users
  • ประสบการณ์ด้าน EUC มากกว่า 10 ปี
  • มีลูกค้า VDI 1,000s
  • มีผู้ใช้งานแบบเวอร์ชวล 1,000,000s

อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการประจำประเทศไทย นูทานิคซ์ ยังได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายPDPA และ เป้าหมายของบริษัทกับ “CIO World News” ว่า  “นูทานิคซ์มองทิศทางของประเทศไทยว่าจะเริ่มมีการเติบโตของธุรกิจเพิ่มขึ้นหลังจากผ่านยุคของ Covid-19 ซึ่งองค์กรต่าง ๆ มีการลงทุนในเทคโนโลยีมากขึ้น และโครงสร้างพื้นฐานไอทีมีความสำคัญต่อการนำเทคโนโลยีมาใช้ ทั้งนี้ Cloud เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่อองค์กร และนูทานิคซ์มองว่าองค์กรจำเป็นที่จะต้องมีการผสมผสานการใช้งาน Cloud ทั้งในรูปแบบของ Private และ Public Cloud ให้เหมาะสม เช่นข้อมูลที่มีความสำคัญอาจจะต้องจัดวางไว้ใน Private Cloud ขององค์กร แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันที่จัดวางอยู่บน Public Cloud  ดังนั้นในปีนี้นูทานิคซ์จึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และนำเสนอโซลูชันอยู่ 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ โซลูชันสำหรับ Hybrid Multi-Cloud เพื่อให้องค์กรสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับสภาพแวดล้อมที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และโซลูชันที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในรูปแบบ Unstructured Data หรือ Database ที่จะทำให้มีการจัดวางข้อมูลอย่างเหมาะสม, มีความปลอดภัย, มีประสิทธิภาพ และหน่วยงานด้านไอทีสามารถดูแลจัดการได้ง่าย

นอกจากนี้จากการบังคับใช้ PDPA ในประเทศไทย นูทานิคซ์  มีระบบที่สมบูรณ์แบบรองรับ ซอฟต์แวร์โซลูชันของนูทานิคซ์เกี่ยวข้องกับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานระบบไอทีทั้งส่วนที่เป็น Private Cloud และ เชื่อมโยงกับ Public Cloud  การพัฒนาซอฟต์แวร์เน้นให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของระบบ และข้อมูลที่นำมาวางไว้บนโครงสร้างพื้นฐานของ นูทานิคซ์ โดยซอฟต์แวร์ได้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงการมีโซลูชันที่ช่วยสร้างความปลอดภัย และการเข้าถึงข้อมูล, แอปพลิเคชันต่าง ๆ ผ่านโซลูชันเช่น Data Encryption, Micro segmentation, Role Bases Access Control หรือการเก็บข้อมูลที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และการป้องกันการโจมตีของภัยคุกคาม เช่น Ransomware ได้ เป็นต้น ทำให้ลูกค้าที่นำโซลูชันของนูทานิคซ์ไปใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานไอทีให้องค์กร มีความมั่นใจในการปกป้องรักษาข้อมูลขององค์กร”