ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 2 พันล้านบาท “บ. ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป” แนวโน้ม “Stable”
ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 2 พันล้านบาทและไถ่ถอนภายใน 3 ปีของ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ดังกล่าวไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในวงเงินไม่เกิน 1.5 พันล้านบาทและใช้สำหรับขยายธุรกิจในโครงการต่าง ๆ ของบริษัท เช่น โครงการขยายร้านค้าปลีกในวงเงินไม่เกิน 0.5 พันล้านบาท
ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ “BBB” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ได้รับการค้ำประกันเต็มจำนวนโดย Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) ของบริษัทที่ระดับ “AAA” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อีกด้วย
อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจที่ดีขึ้นของบริษัทซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเพิ่มความหลากหลายทางธุรกิจไปสู่กิจการร้านค้าปลีก ตลอดจนการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการควบคุมต้นทุนของบริษัท ในขณะเดียวกัน อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความผันผวนของผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ตลอดจนความแปรปรวนของราคาอาหารสัตว์ และการก่อหนี้เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายลงทุนจำนวนมากของบริษัทด้วยเช่นกัน
ผลการดำเนินงานทางการเงินของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 4.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน EBITDA นั้นอยู่ที่ระดับ 6.9 พันล้านบาท โดยมีอัตราส่วน EBITDA ต่อรายได้รวม (EBITDA Margin) เพิ่มขึ้นเป็น 14.4% จาก 11.8% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากราคาเนื้อไก่และเนื้อสุกรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตลอดจนยอดขายสุกรในเวียดนามที่เพิ่มขึ้นจากการขยายฟาร์ม และการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกจากการขยายร้านค้าปลีกเป็นหลัก
ณ เดือนกันยายน 2567 บริษัทมีหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ระดับ 1.9 หมื่นล้านบาท ลดลงจาก 2.4 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2566 ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ระดับ 2.6 เท่า (ปรับให้เป็นตัวเลขเต็มปีด้วยข้อมูลย้อนหลัง 12 เดือน) ลดลงจาก 4.5 เท่า ณ สิ้นปี 2566
ข้อกำหนดทางการเงินที่สำคัญในส่วนที่เกี่ยวกับตราสารหนี้ระบุให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้ต่ำกว่า 2 เท่านั้น ณ เดือนกันยายน 2567 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 1.5 เท่า
หนี้สินทางการเงินรวมของบริษัทซึ่งไม่นับรวมหนี้สินจากสัญญาเช่าทางการเงินมีจำนวนทั้งสิ้น 2 หมื่นล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนประมาณ 7.2 พันล้านบาท ในขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินรวมของบริษัทอยู่ที่ระดับ 36%
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะในการแข่งขันในธุรกิจไก่และสุกรภายในประเทศเอาไว้ได้ อีกทั้งยังคาดว่าบริษัทจะสามารถบริหารจัดการภาระหนี้สินทางการเงินให้สอดคล้องกับนโยบายทางการเงินและเป็นไปตามข้อกำหนดทางการเงินได้
ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตของตราสารหนี้ที่มีการค้ำประกันของบริษัทสะท้อนถึงคุณภาพเครดิตของผู้ค้ำประกันคือ CGIF แต่เพียงประการเดียว
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทสามารถเพิ่มรายได้และความสามารถในการกำไรให้มากขึ้นและมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรักษาอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ให้ต่ำกว่าระดับ 3 เท่าได้อย่างต่อเนื่อง ในทางตรงกันข้าม การปรับลดอันดับเครดิตสามารถเกิดขึ้นได้หากบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA สูงเกินกว่าระดับ 5 เท่าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ อันดับเครดิตตราสารหนี้ที่มีการค้ำประกันของบริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหากอันดับเครดิตของผู้ค้ำประกันคือ CGIF มีการเปลี่ยนแปลง
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
– เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 26 ธันวาคม 2567 |
– เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565 |
– อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565 |