Ericsson Mobility Report เผยแนวโน้ม 5G ทั่วโลกยังคงเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ

อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) เผยรายงานEricsson Mobility Report ฉบับล่าสุดเดือนพฤศจิกายน 2565 ระบุจำนวนผู้ใช้บริการ 5G ทั่วโลกเติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ที่ 1 พันล้านรายภายในสิ้นปี 2565 และจะเพิ่มเป็น 5 พันล้านรายภายในสิ้นปี 2571 แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่กำลังแผ่ขยายไปในหลายพื้นที่ต่างๆของโลกพร้อมคาดการณ์ว่าการเชื่อมต่อผ่านบริการFixed Wireless Access (FWA) ทั่วโลกจะเติบโตรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมจากที่เคยคาดไว้

 

FWA คือบริการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่จะเข้ามาแทนที่การเชื่อมต่อบรอดแบนด์แบบผ่านสายสัญญาณสำหรับการใช้งานตามบ้านและธุรกิจที่เป็นรูปแบบการใช้งาน5G หลักๆแบบหนึ่งในยุคแรกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคที่ไม่มีบริการบรอดแบนด์หรือในตลาดที่บริการบรอดแบนด์ยังครอบคลุมไม่ทั่วถึง

แรงหนุนมาจากแผนกระตุ้นการนำ FWA มาใช้งานในประเทศอินเดียและการคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตในตลาดเกิดใหม่อื่นๆทำให้ FWA ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ย 19% ต่อปีในช่วงระหว่างปี 2565-2571 และจะมีปริมาณการเชื่อมต่อสูงสุดถึง 300 ล้านครั้งในช่วงสิ้นปี 2571

 

จากการสำรวจผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSP) ในกว่า 100 ประเทศพบว่ามากกว่าสามในสี่เปิดให้บริการ FWA ในปัจจุบันและเกือบหนึ่งในสามเปิดบริการ FWA บนเครือข่าย 5G เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีสัดส่วนเพียงหนึ่งในห้าโดยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาพบว่าเกือบ 40% ของบริการ 5G FWA ใหม่เปิดให้บริการอยู่ในตลาดเกิดใหม่

ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนปี 2565 มีจำนวนผู้ใช้บริการ 5G รายใหม่เพิ่มขึ้น 110 ล้านรายทั่วโลกทำให้ยอดรวมเพิ่มเป็น 870 ล้านรายตามที่คาดการณ์ไว้ในรายงานก่อนหน้านี้เผยให้เห็นว่าจำนวนผู้ใช้บริการ 5G จะยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านรายภายในสิ้นปีนี้นับว่าขยายตัวรวดเร็วกว่าเครือข่าย 4G ถึงสองปีหลังเปิดให้บริการ

 

ภายในสิ้นปี 2571 จำนวนผู้ใช้บริการ 5G ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 พันล้านรายหรือคิดเป็น 55% ของผู้สมัครใช้บริการเครือข่ายมือถือทั้งหมดและคาดว่าความครอบคลุมของประชากร5G จะสูงถึง85% โดยเครือข่าย 5G จะรองรับการใช้ดาต้าบนมือถือได้ราว70% ของดาต้าบนมือถือทั้งหมดและมีส่วนในการเติบโตของดาต้าโดยรวม

 

เฟรดริก เจดลิง รองประธานผู้บริหารและหัวหน้าเครือข่ายของ อีริคสัน กล่าวว่า “ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารยังเดินหน้านำเครือข่าย 5G พร้อมบริการFixed Wireless Access มาปรับใช้อย่างต่อเนื่องโดยในทุกสองปีมีปริมาณการรับ-ส่งข้อมูลบนเครือข่ายมือถือทั่วโลกเพิ่มขึ้นสองเท่าตามที่ระบุไว้ในรายงานEricsson Mobility Report ฉบับล่าสุดผู้ให้บริการกำลังดำเนินการเพื่อปรับใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของคลื่นวิทยุรุ่นล่าสุดที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานเพื่อเพิ่มการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนและใช้งานโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”

ภายในสิ้นปี 2571 คาดว่าผู้ให้บริการส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะเปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์โดยหลายรายกำลังจะยุติบริการบนเครือข่าย 2G และ 3G เพื่อนำคลื่นความถี่มาใช้รองรับเครือข่าย 4G และ 5G ซึ่ง อีริคสัน คาดว่าปริมาณผู้ใช้บริการ 5G ในภูมิภาคฯ จะมีถึง 620 ล้านรายตอกย้ำให้เห็นว่าเครือข่าย 5G  จะกลายเป็นเทคโนโลยีชั้นนำในการสมัครใช้บริการโดยมีอัตราการเข้าถึงเครือข่ายที่ 48%

 

การใช้ 5G และการใช้บริการเสมือนจริงใหม่ๆที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของยอดการใช้ข้อมูลบนมือถือในภูมิภาคฯคาดว่าในปี 2571 ยอดการใช้ดาต้าบนมือถือต่อสมาร์ทโฟนจะสูงถึง54 กิ๊กกะไบท์ต่อเดือนหรือเติบโตเฉลี่ยเกือบ30% ต่อปีโดยคาดว่าปริมาณการใช้ดาต้าบนมือถือทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นถึง5 เท่าระหว่างปี2565-2571

 

มร.อิกอร์ มอเรล ประธาน บริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับเครือข่าย5G ซึ่งเราเห็นผลลัพธ์ของการนำ 5G มาปรับใช้ในช่วงแรกพบว่าประมาณ 15% ของประชากรได้เข้ามาใช้งานเครือข่าย 5G  โดยประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าไปสู่การเติบโตระลอกที่สองจากการสมัครใช้บริการ5G โดยภายในปี 2571เราคาดว่าประชากรส่วนใหญ่ของประเทศจะเข้าถึงบริการ 5G”

 

ขณะเดียวกันตัวเลขผู้ใช้บริการ 4G ทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2565 เพิ่มขึ้นอีกประมาณ41 ล้านราย และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีผู้ใช้บริการ4G ทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดที่5.2 พันล้านราย

ภายในสิ้นปี 2565 คาดว่าผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมดจะมีสูงถึง 8.4 พันล้านราย และเพิ่มเป็น 9.2 พันล้านราย ภายในสิ้นปี 2571 โดยผู้ใช้งานมือถือส่วนใหญ่จะใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนและสิ้นปี 2565 คาดว่าจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนจะเพิ่มเป็น 6.6 พันล้านราย หรือคิดเป็น 79% ของยอดผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งหมด

 

รายงานฉบับล่าสุดยังย้ำความสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยภาคโทรคมนาคมถือว่ามีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนระดับโลกทั้งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ด้วยตัวเองและผ่านการดำเนินงานที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อเป็นการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การรับ-ส่งข้อมูลที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นจำเป็นต้องได้รับการจัดการด้วยเครือข่ายอัจฉริยะที่มีความทันสมัยผสมผสานกับแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพให้เครือข่ายอย่างสมดุล

 

รายงาน Ericsson Mobility ประจำเดือนพฤศจิกายน 2565 รวบรวมบทความเชิงลึกอีก 3 บทความประกอบด้วย:

 

  • Network modernization – on the quest for Net Zero
  • Cooperation and collaborating: Building Finland’s next-generation public safety network
  • Digitalization enables enterprises to reach Net Zero

 

นอกจากนี้ อีริคสัน ยังเป็นเจ้าภาพจัดเว็บบินาร์ เผยข้อมูลรายงาน Ericsson Mobility Report ในเวลา 09.00 น. (ตามเวลาในยุโรป) และ 19.00 น. (ตามเวลาในยุโรป) ในวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน ศกนี้ หากต้องการเข้าร่วม โปรดลงทะเบียนที่นี่