ยูโอบี ปิดดีล! ซื้อกิจการรายย่อยซิตี้กรุ๊ป แต่งตั้งเพิ่ม 4 ผู้บริหารระดับสูงไทย-มาเลเซีย

ยูโอบีเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในมาเลเซียและไทยอย่างเสร็จสมบูรณ์ตามกฏหมาย  ขณะที่ในอินโดนีเซียและเวียดนามคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 กิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยนี้ประกอบด้วยกลุ่มลูกค้าสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันและมีหลักประกัน ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และธุรกิจเงินฝากรายย่อย คาดว่าขนาดธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยในทั้ง 4 ประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า มีการให้บริการลูกค้าจำนวน 5.3 ล้านคน และเสริมทีมงานให้แกร่งขึ้นด้วยพนักงานอีก 5,000 คน

 

มร.วี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า  การซื้อกิจการนี้นอกจากจะเป็นการขยายธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่งแล้วยังสนับสนุนความมุ่งมั่นในการก้าวขึ้นเป็นธนาคารที่ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนนึกถึงในการใช้บริการเป็นอันดับแรก และยินดีต้อนรับเพื่อนพนักงานและลูกค้ารายใหม่สู่ครอบครัวยูโอบี การรวมพนักงานซิตี้กรุ๊ปเข้าสู่ทีมงานที่มีคุณภาพของ  ยูโอบีในทั้งสองประเทศ บริษัทฯมุ่งมั่นให้ลูกค้าซิตี้กรุ๊ปได้สัมผัสประสบการณ์การโอนย้ายธุรกิจแบบราบรื่น ด้วยเครือข่ายการให้บริการ สาขาและเครือข่ายพันธมิตรที่หลากหลาย  จากการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพให้เรานำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่มากยิ่งขึ้นแก่กลุ่มลูกค้าที่ขยายเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ยูโอบีจะยังคงให้ความสำคัญกับการโอนย้ายธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปให้เป็นไปอย่างราบรื่นในทั้ง 4 ประเทศ โดยหวังว่าการโอนย้ายลูกค้าทั้งระบบจะแล้วเสร็จในอีก 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า

นอกจากนี้ ยูโอบียังได้ประกาศแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง 4 รายเพื่อเป็นผู้นำธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยที่ขยายตัวขึ้นในมาเลเซียและไทย ได้แก่

  • Ms Elaine Fan, Head of Retail and Brand ธนาคารยูโอบี มาเลเซีย
  • Mr Ronnie Lim, Head of Personal Financial Services ธนาคารยูโอบี มาเลเซีย
  • วีระอนงค์จิระนคร ภู่ตระกูล Head of Retail and Brand ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย
  • ยุทธชัย เตยะราชกุลHead of Personal Financial Services ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

มร. ตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “กระบวนการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในประเทศไทยที่เสร็จสมบูรณ์แล้วนั้น ช่วยผลักดันเป้าหมายของเราในการก้าวสู่การเป็นธนาคารในประเทศไทยที่ผู้บริโภคเลือกใช้บริการ ตลอดจนสะท้อนถึงคำมั่นสัญญาของธนาคารในการยืนหยัดเคียงข้างลูกค้าชาวไทยและพันธสัญญาที่        ยูโอบีให้ไว้ต่อประเทศไทย ธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยในประเทศไทยของซิตี้กรุ๊ป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน จะเข้ามาช่วยเสริมกลุ่มลูกค้าของยูโอบี ประเทศไทย ที่เน้นกลุ่มลูกค้าด้านสินเชื่อที่มีหลักประกันได้อย่างลงตัว การรวมธุรกิจครั้งนี้จะเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินชั้นเยี่ยม รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรและสาขาตลอดจนช่องทางการให้บริการที่ขยายเพิ่มขึ้นกว่าเดิม”

 

นอกจากนี้ ยูโอบีมีแผนในการดำเนินการเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆ เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่ขยายใหญ่ขึ้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยูโอบีได้ประกาศเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ชั้นนำระดับภูมิภาคหลายแห่ง รวมถึงสิงคโปร์แอร์ไลน์,  ‘มิชลิน ไกด์’, Club21 และ Shopee ซึ่งถือเป็นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าในการแลกรับของรางวัล โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย