Sinergia Animal เผยผลจัดอันดับไข่ไก่ปลอดกรงในซูเปอร์มาร์เก็ตไทย ปี 2568 ชี้ช่องว่างความโปร่งใสและมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ในธุรกิจค้าปลีกไทย
ซิเนอร์เจีย แอนิมอล ประเทศไทย เปิดเผยรายงาน “การจัดอันดับไข่ไก่ปลอดกรงในซูเปอร์มาร์เก็ตไทย ปี 2568” ซึ่งเป็นการประเมินครั้งแรกที่จัดทำขึ้นอย่างครอบคลุมทั้งการวิเคราะห์นโยบาย ความโปร่งใส ความมุ่งมั่น และความคืบหน้าของซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าปลีกชั้นนำ 14 แห่งของไทย ในการจัดหาผลิตภัณฑ์ไข่ไก่ปลอดกรง

รายงานการจัดอันดับฉบับนี้ ซิเนอร์เจีย แอนนิมอล ประเทศไทย มีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในสังคมและสาธารณชน กระตุ้นให้ภาคธุรกิจแสดงความรับผิดชอบ และเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอาหารที่มีมนุษยธรรมและยั่งยืนยิ่งขึ้น การประเมินทั้งหมดนี้อ้างอิงจากข้อมูลสาธารณะที่บริษัทต่าง ๆ เผยแพร่เท่านั้น ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่น่าชื่นชม แต่ก็สะท้อนถึงช่องว่างที่สำคัญในภาคค้าปลีกของประเทศด้วย

ศนีกานต์ รศมนตรี กรรมการผู้จัดการ ซิเนอร์เจีย แอนนิมอล ประเทศไทย
สรุปผลการจัดอันดับที่สำคัญ
การจัดอันดับประเมินโดยอิงจาก 6 เกณฑ์ รวมคะแนนเต็ม 18 คะแนน พบว่า มีเพียง 5 แห่ง จากจำนวน 14 ผู้ค้าปลีก ที่มีการเผยแพร่นโยบายหรือประกาศแนวทางเกี่ยวกับการจัดหาไข่ไก่ปลอดกรงอย่างชัดเจน

ผู้ที่มีผลการประเมินโดดเด่น ได้แก่:
- Sunshine Market – 83% (ระดับ A) มีนโยบายสาธารณะที่แข็งแกร่ง ครอบคลุมทุกแบรนด์และทุกสาขา พร้อมกำหนดช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านที่ชัดเจน
- Rimping – 72% (ระดับ A) มีนโยบายครอบคลุมและประกาศเจตนารมณ์อย่างเป็นทางการ
- Tops, Makro, และ Lotus’s – ทำคะแนนได้ 55% (ระดับ B) เท่ากัน มีความคืบหน้าบางส่วนและกำหนดช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่าน แต่ยังคงมีช่องว่างในด้านความครอบคลุมและการรายงานที่โปร่งใส
ในขณะเดียวกัน ผู้ค้าปลีกรายใหญ่หลายราย ได้แก่ 7-Eleven, Big C, Villa Market, Foodland, Lawson 108, MaxValu และ Gourmet Market ได้คะแนน 0% เนื่องจากไม่พบข้อมูลนโยบายการจัดหาไข่ไก่ปลอดกรงที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ

สัญญาณเตือนสำหรับผู้นำค้าปลีกไทย
ปัจจุบันมีแม่ไก่กว่า 54 ล้านตัวในประเทศไทยที่ถูกขังในกรงตับ (battery cages) ซึ่งถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่ที่เล็กกว่ากระดาษ A4 จนไม่สามารถกางปีกได้อย่างเต็มที่ ทำรัง หรืออาบฝุ่นตามสัญชาตญาณได้ ส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพสัตว์อย่างรุนแรง

“รายงานนี้ สะท้อนภาพรวมที่ชัดเจนและเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์เกี่ยวกับจุดยืนของผู้ค้าปลีกในไทยต่อประเด็นไข่ไก่ปลอดกรง บางบริษัทเริ่มแสดงบทบาทนำ แต่โดยรวมแล้วยังมีช่องว่างมหาศาล ผู้ค้าปลีกมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างตลาดที่รับผิดชอบ และนโยบายการจัดหาของพวกเขาควรสะท้อนความรับผิดชอบนี้” ศนีกานต์ รศมนตรี กรรมการผู้จัดการ ซิเนอร์เจีย แอนนิมอล ประเทศไทย
ความคืบหน้าบางส่วน…ไม่เพียงพอ

หทัย ลิ้มประยูรยงค์ ผู้จัดการฝ่ายโปรแกรม ซิเนอร์เจีย แอนิมอล ประเทศไทย
รายงานยังพบความไม่สอดคล้องกันอย่างชัดเจนภายในกลุ่มบริษัทรายใหญ่ เช่น Makro และ Lotus’s ภายใต้กลุ่ม CP Axtra แม้ทั้งแม็คโครและโลตัส จะได้คะแนนดี แต่ CP All ผู้บริหารร้าน 7-Eleven กลับไม่มีนโยบายไข่ไก่ปลอดกรงที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งสะท้อนการขาดมาตรฐานเดียวกันภายในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน
“ผู้ค้าปลีก ไม่ว่าบริษัทจะมีขนาดเท่าใด ก็สามารถขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงได้ด้วยการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน ครอบคลุมทุกแบรนด์ และรายงานความคืบหน้าอย่างโปร่งใส การพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่สม่ำเสมอ จะช่วยยกระดับมาตรฐานทั้งอุตสาหกรรมและคาดหวังของผู้บริโภคได้” หทัย ลิ้มประยูรยงค์ ผู้จัดการฝ่ายโปรแกรม ซิเนอร์เจีย แอนิมอล ประเทศไทย

มาตรฐานระดับโลกที่ไทยต้องก้าวให้ทัน
หลายประเทศในยุโรป เช่น สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย ลักเซมเบิร์ก และไอซ์แลนด์ ได้ประกาศยกเลิกการใช้กรงตับโดยสมบูรณ์ ขณะที่บริษัทระดับนานาชาติหลายราย ได้ให้คำมั่นยกเลิกการใช้กรงในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
“การเปลี่ยนไปสู่การจัดหาไข่ไก่ปลอดกรงเป็นแนวปฏิบัติสากลที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น จากทั้งผู้บริโภค นักลงทุน และหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก ภาคค้าปลีกไทยของไทยมีโอกาสที่จะแสดงความเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการร่วมกันประกาศนโยบายปลอดกรงที่มีกรอบเวลาและมาตรฐานเดียวกัน” แคโรลินา กาลวานี กรรมการบริหาร ซิเนอร์เจีย แอนนิมอล

ถึงเวลาร่วมขับเคลื่อนทั้งอุตสาหกรรม
ซิเนอร์เจีย แอนิมอล ขอเรียกร้องให้ผู้ค้าปลีกและร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ของไทย โดยเฉพาะบริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดสูง ร่วมประกาศนโยบายไข่ไก่ปลอดกรงที่ครอบคลุมและมีกรอบเวลาชัดเจน เพื่อช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมไปสู่ระบบอาหารที่มีมนุษยธรรมและยั่งยืนมากขึ้น
อ่านรายงานฉบับเต็ม การจัดอันดับไข่ไก่ปลอดกรงในซูเปอร์มาร์เก็ตไทย ปี 2568 ได้ที่: www.breakingfreefromcages.com


