องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก จับมือ อบต.หนองสนิท จ.สุรินทร์ และปศุสัตว์ หนุนเกษตรกรพลิกฟาร์มสู่ระบบอาหารที่เท่าเทียม มีมนุษยธรรมและยั่งยืน
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection Thailand) จับมือองค์การบริหารส่วนตำบลหนองสนิท อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ เปิดเวิร์กช็อป “ฟาร์มแชมเปี้ยน” ปีที่ 2 อย่างเป็นทางการ โดยมีเกษตรกรที่ผ่านการคัดเลือก 12 ฟาร์มจากจังหวัดสุรินทร์เข้าร่วมต่อยอดความรู้ มุ่งปฏิวัติระบบการเลี้ยงสัตว์แบบดั้งเดิมสู่การให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์อย่างแท้จริง ภายใต้วิสัยทัศน์การสร้างระบบอาหารที่เท่าเทียม มีมนุษยธรรม และยั่งยืน (Equitable, Humane and Sustainable food systems – EHS) พร้อมผลักดันการเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นธรรม (Just Transition) ในระบบอาหารของไทย
การอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งสำคัญนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากองค์การบริหารส่วนตำบลหนองสนิทที่สนับสนุนทั้งสถานที่และบุคลากร พร้อมด้วย ผศ.ดร.วิทธวัช โมฬี อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากสาขาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางสัตว์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในฐานะหัวหน้างานวิจัยโครงการ ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้เชิงลึกและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ รวมทั้ง น.สพ.สมทัศน์ อย่างสุข นายสัตวแพทย์ชำนาญการ รักษาราชการแทนปศุสัตว์ อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์และให้คำแนะนำด้านเทคนิคอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาควิชาการ หน่วยงานภาครัฐท้องถิ่น และภาคประชาสังคมอย่างเข้มแข็ง นับเป็นรูปแบบความร่วมมือต้นแบบที่สามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้ในอนาคต
สวัสดิภาพสัตว์คือหัวใจสำคัญของอาหารคุณภาพ
เกษตรกรที่ผ่านการคัดเลือก 12 ฟาร์ม ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในเวิร์กช็อปอย่างเข้มข้นในการปรับปรุงฟาร์มตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ โดยมีเกษตรกรรุ่นแรกทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงอย่างใกล้ชิด หลายคนเริ่มตระหนักว่าการให้สัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีไม่เพียงสะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการลดต้นทุนการผลิต ทั้งค่ายาปฏิชีวนะและสารเคมีที่เคยเป็นภาระในระยะยาวและสร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ผลิตและผู้บริโภค
นอกจากนี้การลงพื้นที่เยี่ยมชมฟาร์มไก่โคราชหลายแห่งในเขตอำเภอจอมพระ ทีมงานจากองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกพบว่า แนวคิดนี้กำลังได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่มองเห็นโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์จากฟาร์ม ขณะเดียวกันก็รักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมที่กลมกลืนกับธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นไว้ได้อย่างลงตัว
แผ้ว ภิรมย์ ผู้จัดการแคมเปญระบบอาหาร องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย เปิดเผยว่า: “เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในปีนี้แต่ละรายล้วนมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่แตกต่างกัน บางฟาร์มประสบความสำเร็จในการผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับหลักการเลี้ยงไก่แบบอิสระ บางฟาร์มกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ขณะที่บางฟาร์มมุ่งพัฒนานิเวศเกษตรตามแนวทางที่วางรากฐานไว้ตั้งแต่ปีแรก
“การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่เราส่งเสริม เช่น การขยายพื้นที่ให้ไก่ได้เดิน การเพิ่มอุปกรณ์กระตุ้นพฤติกรรมธรรมชาติ ล้วนส่งผลกระทบเชิงบวกต่อคุณภาพชีวิตของสัตว์อย่างเห็นได้ชัด และสิ่งนี้ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้ยาปฏิชีวนะซึ่งช่วยแก้ปัญหาเชื้อดื้อยา หรือการหลีกเลี่ยงสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกันเป็นห่วงโซ่อาหารที่ดีกว่า เราเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงจากจุดเล็ก ๆ เหล่านี้ จะค่อย ๆ ขยายวงกว้างสู่การปฏิรูประบบอาหารทั้งระบบได้ในที่สุด”
นายสมจิตร นามสว่าง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองสนิท กล่าวว่า “องค์การบริหารส่วนตำบลหนองสนิทมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในโครงการฟาร์มแชมเปี้ยนอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพราะเล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกรในพื้นที่และระบบเศรษฐกิจท้องถิ่นในระยะยาว การส่งเสริมให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาชุมชน ทางเราพร้อมผลักดันให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างเกษตรกร หน่วยงานท้องถิ่น และภาคประชาสังคมต่อไป”
แผนงานระยะถัดไปของโครงการจะเน้นการขยายผลการวิจัยและการสนับสนุนด้านเทคนิคอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจบการอบรม เกษตรกรจะเริ่มเลี้ยงไก่ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนธันวาคม 2568 ซึ่งเป็นช่วงสำคัญในการติดตามและประเมินผลการเปลี่ยนแปลงฟาร์ม จากระบบปิดที่จำกัดอิสรภาพของสัตว์ สู่ระบบปล่อยอิสระที่ให้สัตว์ได้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ โครงการยังมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคท้องถิ่น และเป็นต้นแบบให้เกษตรกรในพื้นที่อื่น ๆ ในการเปลี่ยนผ่านสู่การทำฟาร์มที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์และความยั่งยืนอย่างแท้จริง