NIDA ร่วมกับ Esri Thailand ผลักดันเมืองอัจฉริยะ ชูนวัตกรรม GIS เพื่อความยั่งยืน

NIDA ร่วมกับ Esri Thailand ผู้นำด้านเทคโนโลยี GIS เดินหน้าผลักดันการสร้างเมืองอัจฉริยะต้นแบบแห่งอนาคต เพื่อเป็นต้นแบบในการแก้ปัญหาการจัดการทรัพยากรโดยใช้เทคโนโลยี GIS ในการสร้าง Smart Campus เพื่อให้สามารถวางแผนการใช้พื้นที่ทั้งภายในและภายนอกอาคารให้มีประสิทธิภาพ ประหยัดการใช้พลังงานในอนาคต ตั้งเป้าลดการใช้พลังงานอย่างน้อย 10 %

ผศ.ดร.สราวุธ จันทร์สุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ NIDA S2C° กล่าวว่า NIDA มีแนวคิดในการสร้างเมืองอัจฉริยะ โดยการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในสถาบันให้ตอบโจทย์กับการใช้สอยพื้นที่ให้มีประโยชน์ได้อย่างสูงที่สุด โดยที่ผ่านมาได้สร้าง Smart Energy หรือพลังงานอัจฉริยะ มีการติดตั้ง Solar Cell และกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก ลดการใช้พลังงาน อีกทั้งสร้าง Smart Building โดยมีการติดตั้งระบบ Face Recognition ระบบ Visitor Management System เพื่อตรวจสอบบุคคลภายใน และโครงการ Building Sensor ตรวจจับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) รวมถึงค่าฝุ่น PM 2.5

นอกจากนี้ NIDA มีแนวคิดที่จะใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาจัดการพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น โดยต่อยอดด้วยการใช้เทคโนโลยี GIS ช่วยวางแผนการใช้พลังงาน การบริหารจัดการอาคาร การจัดการจราจร ฯลฯ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่อย่างมีคุณภาพ จึงได้ร่วมมือกับ Esri Thailand ผู้เชี่ยวชาญในด้าน Location Intelligence และการวิเคราะห์ภูมิสารสนเทศในมุมมองใหม่ ในการพัฒนาระบบที่จะรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่จะทำให้ NIDA สามารถวางแผนเพื่อลดการใช้พลังงาน โดยตั้งเป้าหมายไว้อย่างน้อย 10 %

ด้าน ดร.ธนพร ฐิติสวัสดิ์ ประธานบริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า เทคโนโลยี GIS ของ Esri Thailand จะเข้ามาช่วยสร้าง Living Digital Twin ที่เป็นแบบจำลอง 3 มิติที่เสมือนมีชีวิต โดยจะบูรณาการร่วมกับข้อมูล และเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ GIS, Realtime Sensor, IOT เป็นต้น ที่จะทำให้เราได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบริเวณโดยรอบสถาบัน โดยในช่วงแรกได้ใช้อาคารนวมินทราธิราชในการทดลองเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการใช้อุปกรณ์ตรวจวัดหลายชนิด ที่จะทำการตรวจวัดข้อมูลตลอดเวลา ข้อมูลที่ได้รับมา NIDA จะสามารถจัดสรรการใช้งานของอาคารได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ชุดข้อมูลของผู้ใช้งานตึกในแต่ละชั้น สามารถนำมาวิเคราะห์ความหนาแน่นในแต่ละชั้นว่ามีคนใช้งานมากหรือน้อยได้ตลอดเวลา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาใช้ในการวางแผนจัดการใช้งานพื้นที่ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยในการวางแผนประหยัดการใช้พลังงาน และต่อไปในอนาคต

การร่วมมือกันระหว่าง NIDA และ Esri Thailand คาดว่าจะนำไปต่อยอดในการสร้างเมืองให้เป็นเมืองอัจฉริยะที่สามารถเพิ่มคุณค่า และคุณภาพของชีวิตคนเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ Esri Thailand พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้สังคมดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป

ค้นพบศักยภาพของ Location Intelligence เต็มรูปแบบได้ที่ www.esrith.com