โอเพ่นซอร์ส เสริมแกร่งให้หน่วยงานภาครัฐ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างไร

 

บทความโดย นายเปรม ปาวัน 

รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี ของเร้ดแฮท

 

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมาภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้กลายเป็นศูนย์กลางการเติบโตทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รายงาน Google e-Conomy SEA ประจำปี 2566 ประเมินว่าสิ้นปี[1] 2568 เศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคนี้จะมีมูลค่าถึง 295 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ยังได้ตอกย้ำ[2]ความสำคัญของการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลของประเทศในภูมิภาคนี้เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าและการบูรณาการบริการดิจิทัล ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะภาคเอกชนเท่านั้น แม้แต่ภาครัฐเองก็สามารถทรานฟอร์มสู่ดิจิทัล และใช้ดิจิทัลโซลูชันส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้ประชาชน และสร้างสังคมดิจิทัลอย่างทั่วถึงได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อนำไปใช้จริง เครื่องมือดิจิทัลต่าง ๆ ที่มีอยู่อาจไม่ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตามการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้อยู่ในระดับที่ต่างกันออกไป ข้อมูลจาก e-Government Development Index[3] ของสหประชาชาติ ระบุว่า เมื่อพิจารณาด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและความพร้อมในการให้บริการแล้ว ประเทศสิงคโปร์อยู่ในอันดับ 12 จาก 193 ประเทศ แต่มาเลเซีย ไทย และอินโดนีเซียกลับไม่ได้อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน

 

ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ได้บรรจุเรื่องนี้ไว้ในระดับนโยบายแล้ว เช่น นโยบาย Making Indoensia 4.0[4] และ Smart Nation[5] Initiatives ของสิงคโปร์ รวมถึง Thailand Digital Government Development Plan ของไทยที่ล้วนโฟกัสไปที่การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านสวัสดิการสาธารณะและประโยชน์ส่วนรวม ดังนั้นการพิจารณานำเทคโนโลยีที่มีอยู่หลากหลายมาใช้จึงเป็นเรื่องสำคัญ และหนึ่งในเทคโนโลยีที่เป็นแรงกระตุ้นและสนับสนุนให้การพัฒนาบริการประชาชนด้านต่าง ๆ ทำได้อย่างทั่วถึงมากขึ้นอย่างรวดเร็วคือโอเพ่นซอร์ส ที่จะช่วยขับเคลื่อนบริการภาครัฐในภูมิภาคนี้ให้สามารถให้บริการประชาชนได้ดีขึ้น ส่งเสริมนวัตกรรมด้านต่าง ๆ และเพิ่มความปลอดภัยไซเบอร์ให้รัดกุมมากขึ้นได้ ผ่านสามแนวทางหลักคือ

 

พัฒนาดิจิทัลภาครัฐไปพร้อม ๆ กับเศรษฐกิจดิจิทัลที่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

 

ตัวชี้วัดการเติบโตของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในภาพรวมยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดี ธนาคารพัฒนาเอเชียประมาณการณ์ว่าภูมิภาคนี้จะเติบโต 4.7%[6] นอกจากนี้ประชากรในภูมิภาคนี้จำนวนมากยังเข้าสู่ยุค mobile-first ด้วยตัวเลขการใช้สมาร์ทโฟนที่สูงสุดในโลก[7] ผู้บริโภคมีความคาดหวังบริการดิจิทัลที่รวดเร็ว คล่องตัว เฉพาะตัว และสะดวกเพียงกดปุ่ม ทำให้หน่วยงานภาครัฐต้องตามให้ทันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์นี้

 

งบประมาณที่ค่อนข้างจำกัดเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง แต่เทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสร้างดิจิทัลโซลูชันที่คุ้มค่าการลงทุน เพราะซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สส่วนมากเปิดให้ใช้งานได้ในระดับคอมมิวนิตี้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเมื่อจะนำซอฟต์แวร์ไปใช้ในระดับองค์กรก็สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการที่เจาะจงกับการใช้งาน โอเพ่นซอร์สเป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้ความรู้และอัปเดทเรื่องต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นการทำงานร่วมกันจากผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนร่วมทั่วโลก ความคุ้มค่าการลงทุนในลักษณะนี้เป็นประโยชน์มากต่อหน่วยงานที่มีงบประมาณจำกัดและต้องบริหารจัดการงบประมาณนั้นอย่างรอบคอบเหมาะสม

ธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อสังคมของรัฐบาลในประเทศไทย เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้เทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สระดับองค์กรสนับสนุนการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยโซลูชันของเร้ดแฮทมีบทบาทสำคัญในการปรับโครงสร้างพื้นฐานไอทีของธนาคารฯ ให้ทันสมัย ส่งผลให้ธนาคารฯ ให้บริการลูกค้าได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น Indonesia’s Treasury เป็นกรณีตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าโอเพ่นซอร์สช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสาธารณประโยชน์และลดความซ้ำซ้อนได้อย่างไร โดยสามารถให้บริการและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในเวลาน้อยลง 50% และปรับขนาดการทำงานเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ด้วยโซลูชันของเร้ดแฮท PERKESO ในประเทศมาเลเซียเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่นำแอปพลิเคชันที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานวางไว้ให้ทำงานบน

[1] Digital e-Conomy GMV estimate, Google e-Conomy Research as of 2023

[2] Pg1 and 2, Leaders’ Statement On The Development Of The Asean Digital Economy Framework Agreement (Defa), 05 Sep 2023, 23rd Asean Summit, Jakarta, Indonesia

[3] UN e-Government Knowledge Base Live Ranking

[4] Indonesia Dept of Industry – Making Indonesia 4.0 Roadmap

[5] Smart Nation Singapore Roadmap

[6] Asian Development Outlook (ADO) September 2023

[7] Insider Intelligence: Southeast Asia Digital Users Forecast, March 2023