Paper Shoot พร้อมเปิดตลาด กล้องเป็นมิตรเพื่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly)

Paper Shoot ผู้นำตลาดกล้องกระดาษที่เป็นมิตรเพื่อสิ่งแวดล้อมจากไต้หวัน ประกาศความพร้อมบุกตลาดในประเทศไทย ชูคอนเซ็ปต์ Minimalism และ Eco-Friendly ตอบโจทย์คนชอบถ่ายรูป เน้นกลุ่ม Gen Z ที่คำนึงถึงเรื่อง Eco-Friendly และชอบเที่ยวไปกับกล้องน้ำหนักเบา พกพาสะดวก

Mr. Cheuk Que Ho กรรมการผู้จัดการ Paper Shoot Thailand กล่าวว่า ถ้าจะพูดเรื่องสิ่งแวดล้อมในเวลานี้มีหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาวะโลกร้อน ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 และอื่น ๆ ที่รณรงค์ให้ช่วยคิด ช่วยทำกันมากมาย ถ้าลงมือทำและสำเร็จได้ก็เท่ากับช่วยรักษาโลกให้น่าอยู่ และพวกเราจะอยู่กันอย่างสุขสบาย ตัวอย่างที่น่าสนใจที่เห็นมาในงาน Taiwan Excellence Pop-up Store in Thailand 2023” คือ กล้องกระดาษที่เป็นมิตรเพื่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้ชื่อแบรนด์ ”Paper Shoot”

Paper Shoot แบรนด์นี้มีอายุประมาณ 9 ปีแล้ว เริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี 2014 ที่ไต้หวัน เป็นบริษัทที่ทำกล้องดิจิทัล แต่ให้ภาพแบบกล้องฟิล์มได้ โดยจุดเด่นของเราจะเป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นกล้องเชิงไลฟ์สไตล์ ราคาจับต้องได้ แม้จะดูเป็นกล้องกระดาษบาง ๆ แต่เทคโนโลยีข้างในก็ใส่เต็มใกล้เคียงกล้องดี ๆ ตัวหนึ่งเลยทีเดียว จุดเด่นคือ เป็นกล้องแบบ customized ได้ ใช้งานง่าย และดีต่อสิ่งแวดล้อม มีทั้งหมด 3 รุ่น สำหรับรุ่นที่นิยมมากและขายดีที่สุดมีชื่อรุ่นว่า ‘CROZ’ ซึ่งมีสองแบบ แบบแรกเป็นเคสวัสดุที่ทำมาจากไม้ และอีกแบบหนึ่งเป็นเคสใส ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้มีรุ่นกระดาษที่ชื่อ ‘Paper Case’ เป็นรุ่นที่สอง วัสดุที่ใช้เป็นวัสดุพิเศษทำมาจากกระดาษที่มีใยหิน มีคุณสมบัติกันน้ำ แข็งแรงและมีความทนทานมาก สามารถใช้ได้หลายปี ส่วนรุ่นที่สาม คือ ‘Thinkk & Shoot’ เป็นเคสที่พิเศษมาก โดยวัสดุที่ใช้ทำมากจากไม้และใบไม้” ระบบการทำงานของกล้องเพื่อสิ่งแวดล้อมจะคล้ายกับกล้องฟิล์ม แต่มีจุดเด่นที่เป็นลูกเล่น

“จริง ๆ กล้องอันนี้เป็นกล้องดิจิทัล แต่ถ่ายออกมาแล้วจะมีลักษณะแบบกล้องฟิล์ม ซึ่งมีลูกเล่นคือเราสามารถเปลี่ยนฟิลเตอร์เป็นสีอื่นได้ จะมีสีปกติ สีขาวดำ สีซีเปียโทนอุ่น และสีน้ำเงิน โดยการใช้งานจะไม่เหมือนกล้องมือถือที่มีหน้าจอสำหรับเปลี่ยนฟังก์ชัน ซึ่งเวลาถ่ายรูปจะใช้เพียงปุ่มเดียวเป็น One-Button-System ง่าย ๆ มาพร้อมฟีเจอร์ปรับแสงอัตโนมัติ ช่วยให้ง่ายต่อการถ่ายภาพ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสภาพแสงแบบใดก็ตาม ก็จะได้ภาพที่สวยงาม” สำหรับกล้องที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมนี้ ได้เข้ามาในประเทศไทยมาไม่นาน

“Paper Shoot Thailand เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยได้ไม่เกิน 1 ปี โดยเราเป็นตัวแทนจำหน่ายหลักในประเทศไทย และยังมีบริษัทตัวแทนจำหน่ายในหลายประเทศ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศไทยในปีนี้เทรนด์นิยมกล้องประเภทนี้มีเพิ่มมากขึ้น เพราะปัจจุบันกลุ่มลูกค้าคนไทย ช่วงอายุประมาณ 20-35 ปี จะมีไลฟ์สไตล์ในคอนเซ็ปต์ Minimalism และ Eco Friendly ซึ่งชอบถ่ายรูป จึงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์เรามาก โดยเราจะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็น Gen Z เพราะพวกเขาชอบถ่ายรูป ชอบท่องเที่ยว พร้อมพกกล้องที่มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก โดยกล้อง Paper Shoot มีน้ำหนักเบาเพียง 80 กรัม ให้ความรู้สึกเหมือนถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม หากเปรียบเทียบระหว่าง Paper Shoot กับกล้องที่ใช้แล้วทิ้งจะมีความแตกต่างกัน ถ้าเป็นกล้องแบบใช้แล้วทิ้งจะต้องซื้อม้วนฟิล์มตลอด ส่วนกล้อง Paper Shoot มีตัวเลือกสำหรับถ่ายออกมาเป็นไฟล์ดิจิทัลโดยใช้ SD Card ถ่ายได้ไม่จำกัด สามารถเชื่อมต่อดูในมือถือได้ หรือใช้สาย USB ในการเชื่อมต่อไปยัง iPad ได้เช่นกัน” ถ้าจะพูดถึงความนิยมของ Paper Shoot ในต่างประเทศและไต้หวัน

“Paper Shoot  เป็นที่นิยมมากใน 4 ประเทศ ได้แก่ สหรับอเมริกา เวียดนาม สิงคโปร์ และมาเลเซีย เรียกว่าดังกว่าที่ไต้หวัน แบรนด์เราการันตีด้วยหลากหลายรางวัล ได้แก่ รางวัล Taiwan Excellence และรางวัลจากนิตยสาร TIMES ว่าเป็น Best Invention Award 2021 จากงานประกวดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จัดขึ้นทุกปี แล้ว Paper Shoot เป็น 1 ใน 100 ผลิตภัณฑ์แห่งปีอีกด้วย เราเป็นแบรนด์เดียวที่เป็นกล้องถ่ายรูปที่มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ เป็นแบรนด์เดียวที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์และแบรนด์อื่นส่วนใหญ่จะใช้ระบบอะนาล็อคที่จะต้องใช้กระดาษฟิล์มแต่ว่าจุดเด่นของเราเป็นกล้องดิจิทัล ส่วนในเรื่องของการเจาะกลุ่มลูกค้านั้นมีหลาย Generation

“ลูกค้าหลักแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. วัยรุ่น Gen Z 2. วัยทำงานที่ชอบถ่ายรูปแนว Artistic 3. กลุ่มเด็ก เรามีเป้าหมายที่อยากให้เด็กทุกคนสามารถที่จะถ่ายรูปเป็น จากกล้องตัวแรกในชีวิตของเขา เพราะผลิตภัณฑ์ของเรามีน้ำหนักเบา ใช้งานง่ายมาก ไม่ซับซ้อน มีแค่ปุ่มถ่ายแล้วก็เลือกโหมด เราไม่อยากให้ทุกคนใช้แต่มือถือตลอดเวลา อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย 4. กลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มบริษัทหรือองค์กร ที่สามารถนำกล้องไปเป็นของที่ระลึกได้ เราสามารถ customize ให้กับองค์กรต่างๆ ตัวอย่างลูกค้าองค์กร เช่น Starbuck, Coca Cola, Disney, Google ทำเป็นกิจกรรม CSR โดยบริษัทเหล่านี้จะบริจาคกล้องให้กับเด็กด้อยโอกาส ช่วยส่งเสริมเรื่องภาพลักษณ์ให้บริษัทเหล่านี้ ว่ามีวิสัยทัศน์ในเรื่องของการปลูกฝังค่านิยมให้เด็กหันมารักษ์โลกด้วยการใช้กล้องที่ Eco Friendly โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกาจะมีประชาสัมพันธ์ในเรื่องนี้มาก อย่างไรก็ตาม คิดว่าคนไทยให้ความสนใจ และจะเริ่มหันมาใช้เยอะขึ้น เพราะว่าตอนนี้ทุกคนรับรู้เกี่ยวกับปัญหาภาวะโลกร้อน ว่ามันส่งผลกระทบเรา และคนรุ่นหลังอย่างไรส่วนการทำการตลาดของกล้องเพื่อสิ่งแวดล้อมนั้น มีกลยุทธ์ที่น่าสนใจเพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

“อาจจะต้องร่วมมือกับบริษัทหรือองค์กรในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ Eco Friendly ทุกคนไม่จำเป็นต้องใช้มือถือถ่ายภาพเสมอ เราสามารถสนุกกับการถ่ายรูปไปพร้อม ๆ กับการรักษ์โลกได้ในหลายวิธี ซึ่ง Paper Shoot เป็นหนึ่งในนั้น เราวางเป้าหมายกลุ่มลูกค้าที่มีสไตล์มินิมอล เน้นใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อโลก อย่างแบรนด์ Uniqlo หรือ Muji เป็นต้น”

ในส่วนของเรื่องราคามีให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้และวัสดุที่นำมาใช้ในการออกแบบ “มี 3 รุ่น คือ รุ่น Paper Case ราคา 4,990 บาท รุ่น CROZ ราคา 6,690 บาท และ 9,900 บาท และ รุ่น Thinkk & Shoot ราคา 8,990 บาท ราคาต่างกันขึ้นอยู่กับเคสที่ใช้วัสดุ และอุปกรณ์ Accessories ต่างกัน อยากเชิญชวนให้ทุกคนลองใช้กล้อง Paper Shoot ซึ่งเป็นกล้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถติดต่อได้หลายช่องทาง ทั้งเว็บไซต์ Instagram และ LINE มาร่วมรักษ์โลกพร้อมกัน Mr. Cheuk Que Ho กล่าวทิ้งท้าย

สามารถเข้า Facebook: Paper Shoot Thailand, Line: @papershoot,  Instagram: papershootcamera.th  และ www.papershootcamerath.com

Ad by BOFT