หัวเว่ย เผยผลประกอบการประจำปี 2565 ชี้ผลประกอบการยังมั่นคง ก้าวผ่านความท้าทาย และมีพัฒนาการอย่างยั่งยืน

หัวเว่ย เปิดเผยรายงานผลประกอบการประจำปี พ.ศ. 2565 โดยรายงานว่าบริษัทยังคงมีผลประกอบการที่มั่นคงตลอดปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทสามารถทำรายได้สูงถึง 642.3 พันล้านหยวน คิดเป็นผลกำไร 35.6 พันล้านหยวน ทั้งนี้ หัวเว่ยจะยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่อง โดยมีตัวเลขการลงทุนทั้งปีอยู่ที่ 161.5 พันล้านหยวนในปีที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนถึง 25.1% จากรายได้ทั้งปีของบริษัท และทำให้ยอดการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของหัวเว่ยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมามีมูลค่าสูงกว่า 977.3 พันล้านหยวน

 

“สำหรับปี พ.ศ. 2565 นั้น สภาพแวดล้อมภายนอกที่ท้าทายและปัจจัยอื่น ๆ ของตลาดยังคงส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของหัวเว่ย ท่ามกลางมรสุมในครั้งนี้ เรายังคงต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทำทุกอย่างภายใต้ขอบเขตการดำเนินงานเพื่อรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจ และการให้บริการลูกค้า นอกจากนี้ เรายังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสร้างการเติบโต สร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ เพื่อรักษาความอยู่รอดและวางรากฐานสำหรับการพัฒนาในอนาคต” นาย อีริค สวี ประธานกรรมการบริหารหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าวในงานแถลงข่าวรายงานประจำปีของบริษัท

 

นอกจากนี้ นางสาวซาบรีนา เมิ่ง ประธานกรรมการบริษัทหมุนเวียนตามวาระ และผู้บริหารสูงสุดด้านการเงินของหัวเว่ย ยังได้กล่าวภายในงานแถลงข่าวครั้งนี้ว่า “แม้ว่าในปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา จะมีแรงกดดันมากมาย แต่ผลประกอบการทางธุรกิจโดยรวมของเรา ก็ยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยในช่วงสิ้นปี พ.ศ. 2565 หัวเว่ยมีอัตราส่วนหนี้สินที่ 58.9% และยอดเงินสดสุทธิที่ 176.3 พันล้านหยวน นอกจากนี้ ยอดเงินคงเหลือในสินทรัพย์รวมของเรายังมีมากถึงหนึ่งล้านล้านหยวน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยสินทรัพย์หมุนเวียน เช่น เงินสด เงินลงทุนระยะสั้น และสินทรัพย์ในการดำเนินธุรกิจ เห็นได้ชัดว่าสถานะทางการเงินของหัวเว่ยยังคงแข็งแกร่ง มีความยืดหยุ่นและมั่นคง โดยในปี  พ.ศ. 2565 การใช้จ่ายในด้านการวิจัยและพัฒนาทั้งหมดของเราอยู่ที่ 161.5 พันล้านหยวน คิดเป็นสัดส่วน 25.1% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นยอดใช้จ่ายที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ของหัวเว่ย แสดงให้เห็นว่าในช่วงเวลาแห่งความกดดัน เรายังคงพร้อมรับมือด้วยความมั่นใจ”

 

นายอีริค สวี ขึ้นกล่าวในงานแถลงข่าว

นางสาวซาบรี มิ่ง ขึ้นกล่าวในงานแถลงข่าว

 

ในปี พ.ศ. 2565 รายได้จากกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการโครงข่ายอยู่ที่ 284 พันล้านหยวน รายได้จากกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กรอยู่ที่ 133.2 พันล้านหยวน และรายได้จากกลุ่มธุรกิจลูกค้าผู้บริโภคของหัวเว่ยอยู่ที่ 214.5 พันล้านหยวน

สำหรับในประเทศไทย หัวเว่ยได้ประกาศถึงความมุ่งมั่นในการต่อยอดการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ตั้งเป้าหมายในการฝึกอบรมนักพัฒนากว่า 20,000 คน รวมไปถึงวิศวกรพลังงานสะอาดอีกกว่า 10,000 คนภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งในปีพ.ศ. 2566 นี้ หัวเว่ยจะเดินหน้าตามแผนฝึกอบรมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีทีกว่า 14,000 คนผ่านโครงการเรือธงอย่าง Huawei ASEAN Academy นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หัวเว่ยจะเปิดตัวแคมเปญการเล่นน้ำช่วงเทศกาล โดยจะเชิญชวนผู้เข้าร่วมบนช่องทางโซเชียลมีเดียมาร่วมกิจกรรมกับหัวเว่ย หากมีผู้เข้าร่วมถึง 5,000 คนขึ้นไป หัวเว่ยจะส่งมอบระบบโซลาร์เซลล์ให้กับโรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่ชนบท ซึ่งการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ จะช่วยให้โรงเรียนในชนบทเหล่านี้มีแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่เสถียรไว้ใช้งานได้ตลอดปี แม้ในช่วงเวลาที่มีพายุฝน

 

นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ก็ถือเป็นประเด็นสำคัญของประเทศไทย และหัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะรับมือกับประเด็นดังกล่าว โดยบริษัทตั้งใจจะเปิดตัวแผนการสื่อสารความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับประเทศไทย โดยใช้รูปแบบคลิปวิดีโอสั้นและมีเทคนิคการเล่าเรื่อง เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยหัวเว่ยตั้งเป้าที่จะสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจที่ง่ายขึ้นสำหรับประชาชนทั่วไป

หัวเว่ยเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเหล่าพันธมิตรประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน และเพื่อพัฒนาการบริการของพันธมิตรหัวเว่ยให้ดียิ่งขึ้น หัวเว่ยจะปรับนโยบายสำหรับพันธมิตรให้เหมาะสม รวมทั้งใช้มาตรฐานการรับรองและกฎเกณฑ์การจูงใจที่ดีที่สุด ซึ่งรวมไปถึงการพัฒนากระบวนการลงทะเบียนข้อตกลงของพันธมิตร เพื่อให้แน่ใจว่าพันธมิตรได้รับประโยชน์ในรูปแบบที่มีความเป็นมืออาชีพและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น

 

โดย นายเดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงตอกย้ำวิสัยทัศน์ของบริษัทในเรื่อง “เติบโตในประเทศไทย ร่วมสนับสนุนประเทศไทย”

งบการเงินทั้งหมดในรายงานประจำปี พ.ศ. 2565 ได้รับการตรวจสอบอย่างอิสระโดย KPMG ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่บริษัทบัญชีระดับโลก สามารถดาวน์โหลดรายงานประจำปี 2565 ได้ที่ https://www.huawei.com/en/annual-report/2022

หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนปิดปี พ.ศ. 2565 คือ 1.00 ดอลลาร์สหรัฐ = 6.9533 หยวน